จากเด็กเตะบอลสันกำแพง
Thaksin Shinawatra (The Story Ep.9)
สู่เจ้าของ Manchester City
ดร.ทักษิณ ชินวัตร ชื่นชอบการเล่นกีฬาตั้งเรียนชั้นประถม ทุกเย็นหลังเลิกเรียนเด็กชายทักษิณและเพื่อนๆ เล่นบาสกันอย่างสนุกสนาน เล่นกันตั้งแต่ ป.1 โรงเรียนสันกำแพง จนเรียนต่อที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เอาจริงเอาจังกับมันจนได้รางวัล
ด.ช.ทักษิณ รวมตัวกับเพื่อน ตั้งทีมบาสเก็ตบอลชื่อ ทีมดาวเหนือ หรือ North Star เป็นตัวแทนหมู่บ้านไปแข่งกับหมู่บ้านอื่นๆ โดย ด.ช.ทักษิณเล่นในตำแหน่งปีก งานวัดสันกำแพงหลวงทุกปี จะจัดแข่งขันกีฬาต่างๆ แต่กีฬาที่เป็นที่นิยมในตอนนั้นคือการแข่งขันบาสเก็ตบอล จัดช่วงเดือนมีนาคมและช่วงฤดูหนาว คนสันกำแพงจะมาดูและมาเชียร์บาสกันแน่นอัฒจรรย์ทุกนัด
เมื่อย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย
ทำให้เขาได้สัมผัสกับกีฬาชนิดใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้บาสเก็ตบอลนั่นก็คือฟุตบอล เขาเริ่มเรียนรู้การเล่นฟุตบอล และตกหลุมรักฟุตบอลชนิดถอนตัวไม่ขึ้น ในเวลาเดียวกันเขาต้องเอาจริงเอาจังกับการเรียนในโรงเรียน 2 ภาษาครั้งแรก ตามความต้องการของพ่อ-แม่
จนเรียนจบในไทย ไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนจบกลับมาเมืองไทย และเข้าสู่แวดวงธุรกิจ มาสู่การเมือง แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความรักในกีฬาของเขายังอยู่ในใจมาโดยตลอด
พฤษภาคม 2550 ดร.ทักษิณ ตัดสินใจซื้อทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ ด้วยเงินประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยซื้อหุ้นจากผู้บริหารเดิม 55.9% และรวบรวมซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยอีกจำนวนหนึ่ง จนสามารถถือหุ้นเกิน 75% ทำให้เป็นเจ้าของแมนฯซิตี้ กลายเป็นนักธุรกิจไทยคนแรกและคนเอเชียคนแรกที่เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก
“ที่ซื้อทีมฟุตบอลก็เพราะผมชอบฟุตบอล”
ทันทีที่เขาเข้ามาบริหารทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ จากทีมอันดับ 14 ของตารางพรีเมียร์ชิพซีซั่น 2006-07 ทำสกอร์ได้แค่ 29 ประตู แต่ถัดจากนั้นเพียง 3 เดือน เมื่อเริ่มต้นฤดูใหม่ 2007-08 เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ซิตี้ ก็กลายเป็นทีมอันดับ 1 หลังจากชนะรวด 3 นัดแรก“ผมมีเวลามากและคิดว่าตัวเองต้องการทำอะไรบางอย่างก่อนจะกลายเป็นคนว่างงาน ผมคิดว่าการเป็นประธานสโมสรฟุตบอลคงเป็นการเริ่มต้นที่ดี ผมได้ยินมาว่า แมนฯซิตี้ อาจเป็นทางเลือกสำหรับผม และผมก็สนใจทันที ผมตั้งเป้าหมายที่จะปลุกสโมสรยักษ์หลับแห่งนี้ขึ้นมา”
การเป็นคนเอเชียคนแรกที่ได้เจ้าของสโมสรทีมลีกฟุตบอลระดับโลก เป็นฝันอันยิ่งใหญ่ที่ถูกบ่มเพาะมานานจากความรักในกีฬาตั้งแต่วัยเด็ก กลายมาเป็นความภูมิใจของเขาและเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ
ข้อมูลจาก : www.thaksinofficial.com